วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญ ก่อนทำธุรกิจเครือข่าย

ยินดีต้อนรับทุกท่าน สู่ความลับของธุรกิจเครือข่ายแห่งอนาคต ด้วยการตลาดแบบดึงดูด Attraction Marketing
สวัสดีค่ะ ดิฉัน พัชรี บุษทิพย์ ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ท่านได้มาอ่านบทความของดิฉัน ดิฉันคิดว่าท่านอาจจะเคยล้มเหลวในธุรกิจเครือข่ายมาก่อน หรือกำลังคิดจะทำธุรกิจเครือข่ายแต่ยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอ รวมทั้งท่านอาจจะกำลังค้นหาความลับของคนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจแบบนี้...ท่านมาถูกที่แล้วค่ะ

ดิฉันเองก็เคยล้มเหลวในธุรกิจเครือข่ายมาก่อน เนื่องจากความไม่รู้ในความเป็นจริงของธุรกิจ และการที่ไม่เคยมีประสบการณ์ทางด้านนี้มาก่อน จึงเพียงแต่ต้องการทำธุรกิจสักอย่างเพื่อให้ชีวิตตัวเองอยู่บนความหรูหราได้และมีประสิทธิภาพพอที่จะเลี้ยงดูพ่อแม่ให้สุขสบายได้ ทำให้ดิฉันเลือกทำธุรกิจที่อยู่บนความเสี่ยงโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจเรียกได้ว่า "เชื่อคนง่าย"ก็ได้ เพราะคิดว่าเราต้องรวยเหมือนเค้าแน่ๆ แต่ความเป็นจริงแล้ว ล้มเหลวค่ะ

การทำธุรกิจ ทุกๆธุรกิจ ต้องมีความรอบคอบ ต้องคำนึงถึงความเสี่ยง ต้องรู้ว่ามันคุ้มกับการลงทุนหรือไม่ โดยเฉพาะธุรกิจเครือข่าย เป็นธุรกิจที่ลงทุนต่ำก็จริง แต่ก็ต้องรอบคอบในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น การตลาด แผนรายได้ บริษัท ผลิตภัณฑ์ ความมั่นคง ระบบ อิสระด้านการเงินด้านเวลา และวิธีการสร้างเครือข่าย เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น หากแต่ว่าทำงานไปแล้วไม่มีเวลาให้กับครอบครัว ความสุขและความสัมพันธ์ในครอบครัวก็ลดลง หรือวิธีการสร้างเครือข่ายที่ทำให้เสียเพื่อน เสียคนรู้จัก ท่านคิดว่ามันคุ้มหรือไม่

ต้องขอบคุณสิ่งที่เคยทำให้ดิฉันล้มเหลวมาก่อน เพราะสิ่งนั้นมันทำให้ดิฉันรู้จักธุรกิจมากขึ้น และดิฉันมั่นใจว่า จะไม่กลับไปล้มเหลวอีก

ในบทความต่อไปนี้จะทำให้ท่านเข้าใจในธุรกิจมากขึ้น และดิฉันเชื่อว่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย เพื่อการนำไปปรับปรุงกับธุรกิจที่ท่านกำลังดำเนินการอยู่

ถ้าท่านต้องการที่จะเรียนรู้และคลายปมความล้มเหลวในตลาดเครือข่ายของท่าน และเรียนรู้การทำตลาดด้วยวิธีการตลาดแบบดึงดูด Attraction Marketing สามารถอบรมผ่านทางเน็ตฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น แจ้งชื่อ อีเมล์ เบอร์โทร และบอกว่าต้องการอบรมเพิ่มเติม มาที่ dj_venus4@hotmail.com หรือต้องการรู้วิธีดึงดูดคนมาร่วมเครือข่าย 15-25 คนต่อเดือน สามารถเข้ามากรอกรับข้อมูล ส่งให้ฟรีทางเมล์ได้ที่นี่ค่ะ http://www.patcharee2success.com/
หรือกรอกข้อมูลของท่านในกรอบ ด้านขวามือค่ะ



พัชรี บุษทิพย์
ผู้นำธุรกิจเครือข่าย

.........................................................................................................................................................................


Secret 1 ไอเดียของระบบ Attraction Marketing กับระบบเครือข่าย

ปัญหาของคนทำเครือข่ายคือยิ่งทำธุรกิจเท่าไหร่ไม่มีใครอยากคบหาหรือไม่มีใครอยากเข้าใกล้รู้ไหมว่าปัญหามันเกิดเพราะอะไร?
-ถ้าเวลาไปเที่ยวเพื่อน ในกลุ่มเพื่อนคนหนึ่งคุยแต่เรื่องธุรกิจให้เพื่อนฟัง ท่านจะรู้สึกอย่างไร
-ถ้าเวลาเจอหน้าญาตเมื่อไหร่ เป็นต้องแนะนำผลิตภัณฑ์หรือโอกาสทางธุรกิจกับท่าน ท่านชอบหรือไม่
-เพื่อนไม่เคยคุยกันมาเป็นปีๆ โทรมาบอกว่ามีผลิตภัณฑ์มาเสนอ หรือมีโอกาสธุรกิจมาเสนอ ท่านอยากฟังไหม
-เปิดหน้าเวปก็เจอแต่โฆษณาโอกาสทางธุรกิจเต็มไปหมด ท่านปิดเวปนั้นทิ้งหรือเปล่าล่ะ

คราวนี้พอมองเห็นหรือยังคะว่า การตลาดที่ท่านคิดว่าเวิร์ค ที่ปรึกษาแนะนำให้ท่าน ลิสต์รายชื่อคนรู้จัก แล้วกระหน่ำโทรหา คุยกับทุกคนบนท้องถนน รีบโทรไปบอกเพื่อนว่าเราทำธุรกิจอยู่มาทำกับเราด่วน แนะนำสิ่งดีๆให้คนใกล้ตัว ใช้ดีแล้วบอกต่อ (คำนี้เขาฮิตกันจัง) ทุ่มเงินลงในเวปเพื่อโปรโมตหรือซื้อรายชื่อมาโทรกันเลย แจกซีดีด้วย


นี่กำลังเป็นระบบที่ผลักไสไล่ส่งคนอื่นให้ไปไกลๆจากท่าน น่าตลกมาก ท่านกำลังทำธุรกิจเครือข่ายที่ต้องการคนเข้ามาร่วมแต่ระบบท่านกำลังไล่คนหนี ….!!!!นั่นล่ะค่ะทำไมคนทำเครือข่าย 99% ไม่ประสบความสำเร็จ ได้น้อยกว่าเสีย สุดท้ายก็เข้าสู่วงจรอุบาทว์ในการทำธุรกิจคือการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ธุรกิจ A H B C ก็จะกลายเป็นของขวัญในความล้มเหลวต่อไปของท่าน คนเดียวกัน ทำงานแบบเดียวกัน ใช้ระบบเหมือนๆกัน ผลลัพธ์ย่อมไม่ต่างกันมาหรอกค่ะ นั่นท่านคือ 99 % ของทุกธุรกิจที่ท่านเข้าไปร่วม



แล้วระบบ Attraction Marketing คืออะไรล่ะ?? Attraction Marketing ชื่อก็บอกแล้วนะคะว่าเป็นการทำการตลาดแบบดึงดูด แล้วท่านจะดึงดูดอะไรล่ะ
-การได้คนหลั่งไหลเข้าเวปของท่านโดยที่ท่านไม่เสียเงินทำการโปรโมตกับเวป
-การที่ท่านได้คนสนใจมาร่วมโดยที่ท่านไม่ต้องวุ่นวาย กระหน่ำโทรหาใคร เพราะเขาจะวิ่งมาหาท่านเอง
-การที่ท่านได้คนสมัครโดยไม่ต้องเสียเวลาโน้มน้าวใคร หน้าที่ของท่านคือสมัครเขาเท่านั้น แถมคนเหล่านั้นยังแย่งที่จะเป็นต้นสายกับท่าน
-ท่านจะถูกเปลี่ยนบริบทจากการที่ถูกปฎิเสธของคนที่จะเข้ามาร่วม กลายเป็นว่าท่านจะเป็นคนปฎิเสธเขาเอง
แล้วไอเดียนี้มันเกิดจริงเหรอ?? ถ้ามีจริงก็ดีสิ? (ฉันละเหนื่อยกับการโทรตามจิกคน ท้อกับการถูกปฎิเสธของคน)
ข่าวดีก็คือ ระบบนี้ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว และจะเป็นแสงไฟสปอร์ตไลท์ส่องหน้าให้กับคนทำเครือข่าย คราวหน้าเราจะมาเจาะลึกมากขึ้นกับระบบ Attraction Marketing นะคะ


พัชรี บุษทิพย์
ผู้นำธุรกิจเครือข่าย

.........................................................................................................................................................................


Secret 2 Attraction Marketing การตลาดแบบดึงดูด

เราได้เข้าใจไอเดียของการตลาดแบบดึงดูดที่จะเข้ามาแทนรูปแบบการทำตลาดเครือข่ายแบบเดิมๆที่ไล่คนออกจากชีวิตไปแล้วนะคะ สิ่งสำคัญต่อไปนี้คือ แล้วเขาทำกันอย่างไร
ระบบการตลาดแบบดึงดูด เป็นการสร้างความเชื่อมั่นของตัวท่านเองให้กับผู้คนที่สนใจในเครือข่าย ถามนิดนะคะว่า ถ้าท่านกำลังจะทำธุรกิจเครือข่ายสักตัวกับคน 2 ประเภท ที่ทำเครือข่ายอันเดียวกัน
คนที่1 มีความเชี่ยวชาญด้านเครือข่ายเรียกได้ว่าเป็นปรมาจารย์เลย กับ
อีกคนเป็นคนที่ทำการตลาดเครือข่ายทั่วๆไป ที่ทำตามที่ปรึกษาแนะนำ ท่านว่าท่านจะเลือกทำกับใคร แน่ๆใช่ไหมคะว่าท่านจะเลือกทำกับคนที่เป็นปรมาจารย์คนนั้น คนอื่นก็เหมือนกัน คนจะเลือกคนที่เขามั่นใจว่าจะนำพาเขาสู่ความสำเร็จ คนจะเลือกคนเป็นผู้นำเสมอ สองประเด็นนี้คือหัวใจของการตลาดแบบดึงดูด ความเชื่อมั่นเป็นสิ่งที่ท่านควรสร้าง ไม่ใช่ความเชื่อมั่นในตัวบริษัทหรือแผนการตลาดนะคะ แต่เป็นความเชื่อมั่นของคนอื่นต่อตัวท่านเอง



ดังนั้นหยุด!!!โฆษณาโอกาสทางธุรกิจเสียทีค่ะ เพราะท่านจะเป็นเหมือนคนส่วนใหญ่ที่ทำเครือข่ายที่ทำโฆษณาขยะตามเวปต่างๆ แต่ท่านต้องมุ่งโปรโมตความเป็นมืออาชีพของท่านเอง มุ่งการพัฒนาความเป็นมืออาชีพของตัวเอง เปลี่ยนบริบทของท่านจากการเป็นผู้ล่าที่ต้องการเนื้ออย่างมาก ให้เป็นผู้ถูกล่าที่มีคนถวิลหาอยากจะเจอ คราวนี้ท่านจะเข้าสู่ระบบการตลาดแบบดึงดูด Attraction Marketing แบบเต็มตัว



คราวหน้าเราจะมาเรียนรู้ว่า Attraction Marketing จะเข้ามาเป็นส่วนประกอบอย่างไรในธุรกิจของท่าน มันมีส่วนไหนบ้างที่จะเสริมธุรกิจของท่าน



ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านบทความจนจบ หวังว่ามันจะมีประโยชน์กับท่านที่ทำเครือข่าย สามารถนำความรู้นี้ไปใช้ในงานเครือข่ายของตัวท่านเองให้สำเร็จยิ่งขึ้น เปลี่ยนมุมมองของคนกับธุรกิจเครือข่ายกันเสียใหม่


พัชรี บุษทิพย์
ผู้นำธุรกิจเครือข่าย


.........................................................................................................................................................................


Secret 3 การนำการตลาดแบบดึงดูดหรือ Attraction Marketing มาใช้กับธุรกิจเครือข่าย
เราได้เรียนรู้สิ่งที่มันเวิร์คแล้ว เมื่อนำระบบ Attraction Marketing หรือระบบการตลาดแบบดึงดูดมาใช้กับธุรกิจเครือข่ายของเรา สิ่งต่อไปนี้ที่จะถ่ายทอดคือวิธีการที่จะนำเข้ามาใช้ให้เหมาะสมกับเครือข่าย
เรายังเข้าใจจากบทความก่อนหน้าแล้วว่า การที่การตลาดแบบดึงดูดของเราจะสมบูรณ์เมื่อเราทำการโปรโมตความเป็นมืออาชีพของเรา จนสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้คน ผ่านระบบต่างๆและเครื่องมือที่เราใช้ในการโปรโมตตัวเอง ทุกคนจะรู้จักเราในฐานะผู้เชี่ยวชาญหรือ Expert ทางด้านเครือข่าย เมื่อนั้นละค่ะเราจะเปรียบเสมือนแม่เหล็กในการดึงดูดคนเข้ามาร่วม

หัวใจของการทำเครือข่ายอย่างแรกก็ คือ การสร้างลิสต์รายชื่อคนที่สนใจ เป็นสิ่งจำเป็นอันดับแรก สิ่งเก่าๆที่หลายๆคนทำกันมาก่อนไม่ว่าจะเป็นการสร้างลิสต์รายชื่อจากคนรู้จัก (ดิฉันให้นิยามว่า 100 คนแรกที่คุณจะไล่เขาจากชีวิต) หรือการที่เลือกที่จะใช้เงินไปโฆษณาตามเวป บางคนใช้การซื้อรายชื่อจากที่ปรึกษา หรือบางคนเลือกการสแปร์มเมล์(ผิดกฎหมายนะคะ) อาจจะเวิร์คบ้างแต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องใช้ทั้งเวลาหรืองบประมาณไปตลอดของการสร้างรายชื่อ แถมยังต้องเหนื่อยในการทำงานสำหรับแทบทุกธุรกิจที่ระบบการติดตามไม่มี ต้องโทรตามเอง การสร้างรายชื่อของระบบ Attraction Marketing เมื่อท่านเป็นมนุษย์แม่เหล็กแล้ว ด้วยความเชื่อมั่นที่มีในตัวท่าน คนจะขยับตัวตามท่านไม่ว่าท่านจะขยับไปทิศทางไหน โดยที่ท่านไม่ต้องเสียเวลาโฆษณาตัวธุรกิจ เพราะตัวท่านคือเครื่องหมายการันตีอยู่แล้ว งานของท่านจะไม่ใช่การสร้างลิสต์รายชื่อคนสนใจในธุรกิจนั้นๆ แต่จะเป็นการสร้างลิสต์รายชื่อคนที่อยากเรียนรู้การทำธุรกิจให้สำเร็จ คนที่สนใจว่าท่านจะเอ่ยอะไรออกมา


หัวใจอย่างที่สองคือ การติดตาม ในหลายๆธุรกิจปัจจุบัน การติดตามของคนส่วนใหญ่อยู่ในรูปของการโทรศัพท์ แน่นอนละค่ะว่า โอกาสที่เขาจะมาร่วมกับเรามันขึ้นกับหลายปัจจัยมาก เมื่อท่านอารมณ์ดี อารมณ์เสีย สัญญาณโทรศัพท์ เวลาที่จะใช้ในการคุย และอื่นๆ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เกิดความล้มเหลวได้ง่ายๆในการติดตามผล ถึงแม้ท่านจะเป็นมืออาชีพเท่าไหร่ก็ตาม ท่านใช้สคริปที่เทพเขียนให้ก็ตาม นอกจากนี้ท่านยังถูกจำกัดด้านเวลาที่จะนำมาใช้ในการติดตามผล ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเกิดผลลัพธ์อย่างไรด้วยซ้ำไป รายชื่อบางรายชื่อ เมื่อท่านโทรไป เขาไม่สนใจยังทำให้ท่านรู้สึกท้ออีก หรือแม้กระทั่งคนที่สนใจแต่ยังไม่ตัดสินใจ ท่านจะโทรตามได้กี่ครั้งกัน สุดท้ายก็ต้องทิ้งรายชื่อที่ได้มาโดยยากลำบากไป เกิดแบบนี้กับเครือข่ายที่ท่านทำอยู่ใช่ไหม !!!! วิธีการติดตามของระบบ Attraction Marketing คือการติดตามผ่านทางอีเมล์ที่เรียกว่า Email Marketing เป็นการติดตามที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด เราไม่ต้องเหนื่อยกับการคุยกับคน เราจะถูกคนที่สนใจจริงๆเท่านั้นโทรมาหาหรืออีเมล์มาถาม เห็นไหมคะว่าการคุยกับคนที่สนใจมันจะง่ายกว่าเยอะ ท่านสามารถให้ข้อมูลในแบบที่ระบบท่านมีกับเขาได้เลย ในขณะเดียวกันยังทำให้คนที่อาจจะเข้ามาเป็น lead ของท่านโดยบังเอิญ กลับเข้ามาสนใจในสิ่งที่ท่านทำอยู่ คนที่สนใจจะได้รับอีเมล์จากระบบที่ส่งไปหาเขาเรื่อยๆตามที่ท่านต้องการ(ส่ง เมล์แบบนี้ถูกกฎหมายนะคะ) ท่านจะไม่สูญเสียรายชื่อที่หามาโดยลำบากไปฟรีๆ ยิ่งถ้าท่านมีลิสต์รายชื่อเยอะๆ การติดตามแบบนี้จำเป็นมากๆ เพราะท่านจะโทรศัพท์อย่างเดียวคงไม่ไหว
ทุกวันนี้บางธุรกิจในบ้านเราก็เริ่มมีการใช้ระบบ Email Marketing นะคะ แต่อย่าลืมนะคะว่า Email Marketing เป็นแค่ส่วนหนึ่งของระบบ Attraction Marketing เพราะหัวใจของการตลาดแบบดึงดูดคือการสร้างความเชื่อมั่นของคนอื่นในการเป็นมืออาชีพของคุณเอง

หัวใจอย่างที่สามของเครือข่ายคือการปิดการขายหรือการปิดการรับสมัครคน ท่านเห็นไหมคะ สองอย่างแรกเราสามารถใช้ระบบทำแทนเราได้ หน้าที่ของเราในการตลาดแบบดึงดูดก็คือ การปิดการขายและรับสมัครคน เมื่อระบบการตลาดแบบดึงดูดของท่านแกร่งจริงๆ ท่านไม่ต้องโน้มน้าวอะไรเขาทั้งสิ้น หน้าที่ของท่านคือดูว่าเขาจริงจังแค่ไหน ถ้าไม่จริงจังก็ปฎิเสธเขาที่จะให้เข้าร่วมไป เพราะท่านจะรู้ว่าเสียเวลาเปล่ากับคนที่ไม่จริงจัง และจงสอนการตลาดแบบที่ท่านทำอยู่กับคนที่เขามาร่วมกับท่าน เห็นไหมคะว่าบริบทของท่านจะถูกเปลี่ยนจากตามล่าคน กลายเป็นคนที่ถูกเขาตามล่า


แล้วคราวหน้าเราจะมาเรียนรู้การทำการโปรโมตความเป็นมืออาชีพของท่าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้คน และทำให้คนแย่งกันสมัครเพื่อเป็นต้นสายกับท่าน


พัชรี บุษทิพย์
ผู้นำธุรกิจเครือข่าย


.........................................................................................................................................................................


Secret 4 หลักการเบื้องต้นในการโปรโมตความเป็นมืออาชีพของตัวท่านเอง
การทำการตลาดแบบดึงดูดเริ่มจากทำให้คนรู้จักเราก่อน หลังจากนั้นเริ่มสร้างความสัมพันธ์ และสุดท้ายท่านก็เริ่มโปรโมตความเป็นมืออาชีพของท่านให้คนเชื่อมั่นในท่าน

การทำให้คนรู้จักเป็นสิ่งแรก ท่านต้องรู้ว่าสิ่งที่จะเวิร์คกับการตลาดแบบดึงดูดคือ การทำการตลาดกับระบบสังคมออนไลน์ และใช้ระบบที่สนับสนุนสังคมออนไลน์ social network ที่ท่านต้องเลือกว่าจะใช้เครื่องมืออะไรบ้าง ทีมีในเน็ตอย่างเช่น youtube facebook hi5 myspace หรือวิธีอื่นๆที่ท่านถนัด แม้กระทั่งกระทู้ก็ยังได้เลย


ขั้นต่อมาเป็นการสร้างความสัมพันธ์ เพราะคนจะให้ความเชื่อมั่นและเข้ามาสนใจท่าน เมื่อเขามองว่าท่านเป็นคนน่าคบ มีบางอย่างคล้ายๆกัน หรือท่านให้ความใส่ใจในตัวเขาเป็นอันมากท่านต้องทุ่มเวลาเป็นอันมากในการสร้างความสัมพันธ์กับคน ท่านต้องกล้าโชว์ความเป็นตัวท่าน รูปภาพของท่านคือสิ่งที่ขาดไม่ได้ และอย่าทำการอันใดที่เขารู้สึกอึดอัด เพราะสุดท้ายเราจะโดนลบจากระบบของเขาทันที

บางท่านใช้ social network ในการโฆษณาขายของ ขายธุรกิจทันทีที่เริ่ม สิ่งที่เกิดขึ้นสุดท้ายคือท่านจะไม่มีเพื่อนในเครือข่ายเลยเพราะท่านจะโดนเขี่ยจากระบบเขาทันที คนไม่ชอบโฆษณาขยะเหมือนที่ดิฉันกล่าวแต่ต้น

ขั้นต่อมาเป็นการสร้างความเชื่อมั่นได้นั่นคือ การที่เริ่มโปรโมตความเป็นมืออาชีพของตน แต่ไม่ใช่โปรโมตธุรกิจนะคะ เราต้องโปรโมตสิ่งที่จะแก้ปัญหาให้เขา โปรโมตสิ่งต่างๆที่มีในระบบ ความรู้ความสามารถของเราแบบไม่โอ้อวด เอาให้พอเหมาะ ถ้าเป็นไปได้แสดงหลักฐานด้วยยิ่งดี

ขั้นตอนอาจจะดูง่ายๆแต่ต้องใช้เวลา และความใส่ใจเป็นอันมากในขั้นตอนการสร้างความสัมพันธ์ แต่สุดท้ายผลลัพธ์อันมหาศาลจะเกิดขึ้นแน่นอน

การเป็นมนุษย์แม่เหล็กอีกอย่างคือ ถ้าท่านทำเครือข่ายอยู่แล้ว แน่นอนท่านมีไซด์ไลน์ที่ทำธุรกิจเดียวกับท่าน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีด้วยกันไว้ค่ะ เพราะไม่แน่อนาคตคือสิ่งไม่แน่นอนท่านอาจจะได้เขามาร่วมเครือข่ายแบบไม่ต้องเปลืองแรง และคนเหล่านั้นเขามีทักษะที่เหนือกว่าหลายคนที่ไม่เคยทำมาก่อนด้วยซ้ำไป


พัชรี บุษทิพย์
ผู้นำธุรกิจเครือข่าย

..........................................................................................................................................................................


Secret 5 การเริ่มสร้าง ลิสต์รายชื่อผู้สนใจอย่างไรดี

ถ้าท่านลองอ่านบทความ 4 บท ที่ผ่านมาแล้วลองเอาไอเดียไปปรับใช้กับเครือข่ายของท่าน ดิฉันยืนยันเลยว่า ธุรกิจเครือข่ายของท่านจะพลิกหน้ามือเป็นหลังมือเลยที่เดียว แต่สิ่งสำคัญคือระบบที่ท่านจะต้องสร้างขึ้นมา แต่ถ้ายังไม่มีระบบแบบที่ดิฉันอธิบายแล้วล่ะก็ วันนี้เราจะมาเรียนรู้การสร้างลิสต์รายชื่อผู้ที่สนใจว่าปัจจุบันมีแบบไหนบ้าง


1. การโฆษณาตามเวป เป็นสิ่งที่หลายคนทำกัน หลายธุรกิจใช้แบบนี้ รายชื่อที่เข้ามาจะได้น้อยได้มาก หรือมีคุณภาพเท่าไหร่ขึ้นกับหลายปัจจัย เช่นความดังของเวปที่ลงโฆษณา ที่ส่งผลต่อจำนวนคนเข้า ข้อความที่เราใช้ แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ โฆษณาแบบนี้เป็นขยะของเวปในปัจจุบันนี้ เพราะมีแต่คนโฆษณารายได้ โอกาสที่ดีที่สุด เด็กน้อยก็ทำได้ คนส่วนใหญ่ระอากับโฆษณาแบบนี้ เพราะคลิกไปที่ไหนก็เจอ
2. การส่งเมล์หาคนที่สนใจโดยใช้ โปรแกรมส่ง เป็นการส่งเมล์ที่ผิดกฎหมายนะคะ ระวังให้ดีนะคะสำหรับคนที่ทำแบบนี้ ไม่ว่าท่านจะส่งเข้า inbox หรือ spam mail ถ้าไม่มีการยินยอมจากเจ้าของอีเมล์ถือว่าท่านสแปร์มทั้งหมด ส่วนใหญ่การส่งเมล์จะได้ผลตอบรับ 0.1-0.2 เปอร์เซ็นต์
3. การโพสต์กระทู้ เป็นอีกวิธีในการสร้างลิสต์รายชื่อ คล้ายกับการโฆษณาตามเวป แต่ท่านไม่ต้องเสียเงิน โดยท่านเสียเวลาในการโพสต์ และคุณภาพอาจจะไม่ดีเท่าการโฆษณาตามเวป
4. การใช้ Google Adword Yahoo เป็นอีกทางเลือกทีคุ้มค่า เพราะท่านจะได้คนสนใจที่มาค้นหาคำเฉพาะที่ท่านลงไว้ ซึ่งเขามีพื้นฐานความต้องการเป็นทุนอยู่แล้ว แต่ท่านต้องมีความรู้ในการ ตั้งค่าโฆษณา ข้อความที่ใช้ที่ดึงดูด เพราะถ้าท่านลงโดยไม่มีความรู้ โอกาสเสียเงินมหาศาลแบบไม่เกิดผลลัพธ์มันสูงมาก
5. การปั่นเวปไซด์เราให้ติดท็อปกับ ทาง Search Engine เมื่อคนทำการค้นหา เวปเราก็จะโชว์เหมือนกับการที่เราโฆษณากับ Google Adword เพียงแต่ว่ารายชื่อที่เราได้มาไม่ต้องเสียเงินและถ้าเราติดอันดับแรกๆของการค้นแล้ว โอกาสที่คนจะหลั่งไหลเข้าเวปเราสูงมาก
6. การโฆษณากับคนที่อยู่ในห้องประชุมออนไลน์สาธารณะ เช่น camfrog msn skype เป็นอีกวิธีในการโปรโมตธุรกิจท่านกับคนที่สนใจ โดยเฉพาะห้อง camfrog ที่มีอัตราคนเล่นค่อนข้างสูง
7. การทำโฆษณากับทาง youtube ที่คนจำนวนมากไปดูวีดีโอกันแต่ไม่มีคนสนใจทำการตลาดกับ youtube มากเท่าที่ควร ท่านอาจจะสร้างวีดีโอแล้วอัปโหลดขึ้นไปเป็นอีกทาง
8. การโปรโมตความเป็นมืออาชีพใน social network เป็นอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพ แต่ท่านต้องใช้เวลา เพราะถ้าท่านพยายามโฆษณากับคนอื่นๆ คนส่วนใหญ่จะเริ่มลบท่านจากความเป็นเพื่อนทันที แนะนำให้ทำการโปรโมตความเป็นมืออาชีพของคุณ ที่จะแก้ปัญหาให้เขาแทน ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่จะคุยแค่ธุรกิจอย่างเดียว ต้องมีเรื่องอื่นๆบ้าง แต่การทำแบบนี้ต้องใช้เวลาพอสมควรก่อนที่คนจะเชื่อถือในต้วท่าน

สำหรับคนที่เริ่มทำเครือข่าย จะใช้วิธีไหนก็ได้ตามเหมาะสมกับตัวท่านเอง ระบบ Attraction Marketing จะต้องเริ่มทำงานเมื่อมีคนเริ่มเข้ามาในระบบท่าน ท่านต้องมีระบบการติดตามไว้รอในมือ แต่สำหรับคนที่ใช้วิธีข้อ 8 ท่านได้เริ่มสร้างระบบ Attraction Marketing ตั้งแต่การสร้างรายชื่อแล้ว


พัชรี บุษทิพย์
ผู้นำธุรกิจเครือข่าย


.........................................................................................................................................................................


Secret 6 การสร้างความสัมพันธ์แบบอัตโนมัติกับระบบ Email Marketing
คุณเคยได้ยินคำพูดนี้ไหมคะ " ถ้าธุรกิจเครือข่ายไหนไม่มีระบบติดตามคนอัตโนมัติ Email Marketing อย่าคิดไปทำเด็ดขาด " สาเหตุเพราะ คุณต้องทำงานหนักแน่ๆ คุณจะทำอย่างไรเมื่อเริ่มมีคนให้ความสนใจ คุณจะอาศัยการโทรไปหาเหรอคะ โอ้ว..คุณต้องเป็นมนุษย์มือถือลิซึ่ม หรือ นางทางโทรศัพท์แน่ๆ แถมคนที่โทรหาคุณแน่ใจหรือคะว่าเขาสนใจจริงๆหรือแค่กรอกมาดูเฉยๆ สถิติของการทำเครือข่าย บอกว่า 100 คนที่กรอกมาจะมีแค่ 2-3 คนเท่านั้นที่จริงจัง 97-98 คนเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในข่าย คุณจะใช้เวลาเท่าไหร่ในการคุย ยิ่งคุณเป็นคนใหม่ ดิฉันบอกเลยว่าร้อยทั้งร้อยที่โทร เจออาการเหวอแน่ๆ จากการปฎิเสธจากรายชื่อเหล่านั้น ที่ปรึกษาบอกว่าไงคะ “ทำต่อไปหาคนที่ใช่” แต่เราเป็นคนมีจิตใจ คงไม่อยากเจอการปฎิเสธมากมายขนาดนั้น หรือบางคนสติแตกไปเลยก็มี

การสร้างความสัมพันธ์เป็นสิ่งจำเป็น สำหรับธุรกิจเครือข่าย เพราะไม่มีใครซื้อหรือเข้าร่วมกับเครือข่าย กับคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนแบบง่ายๆหรอกค่ะ คุณคิดว่าเขาจะทำธุรกิจกับคุณเมื่อคุยกัน 1-2 ครั้งเหรอคะ สถิติเครือข่ายบอกว่า คนที่เข้าร่วมเครือข่ายส่วนมากจะเข้าร่วมเมื่อถูกติดตามผลอย่างน้อย 7 ครั้ง …..คราวนี้รู้หรือยังว่าทำไมยังล้มเหลวกับระบบเดิมๆที่ใช้การติดตามผลทางโทรศัพท์ เพราะคุณมั่นใจไหมว่าจะกล้าโทรหาคนสนใจอย่างน้อย 7 ครั้ง เป็นดิฉันใครโทรมาขนาดนั้น โดยที่ไม่ใช่คนรู้จักมาก่อน ดิฉันก็คงบอกว่า “คุณมีธุระอะไรนักหนากับดิฉันเนี่ย”

การติดตามผ่านทางอีเมล์ที่เรียกว่า Email Marketing จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะ
-ไม่ต้องเหนื่อยคุยกับคนเยอะ ใช้ระบบอีเมล์ติดตามให้แทน
-กรองคนมาให้คุยเฉพาะคนที่เขาสนใจเท่านั้น ระบบนี้จะทำให้คุณไม่ต้องเหนื่อยกับคนที่ไม่สนใจ
-ทำให้คนที่ไม่สนใจในตอนแรกกลับมาสนใจธุรกิจเรา ไอเดียของที่ปรึกษาคุณที่บอกว่า คนทุกคนที่คุณเจอตามท้องถนนคือทีมงานในอนาคต เป็นลูกค้าในอนาคต ให้คุยกับทุกคนบนท้องถนน เป็นไอเดียเดียวกันกับเราค่ะ แต่ที่ปรึกษาคุณ ใช้วิธีที่ไม่เวิร์คในการทำให้คนสนใจ แต่อีเมล์ที่เราส่งไปจะค่อยๆโน้มเขามาศึกษาสิ่งที่เรานำเสนอมากขึ้น
-เป็นการโปรโมตความเป็นมืออาชีพของคุณอีกทางหนึ่ง ทำให้คนรู้จักคุณในฐานะมืออาชีพ คุณจะเริ่มสร้างกรอบความศรัทธาให้กับเขาอีกทาง
“ฉันจะเริ่มส่งเมล์หาคนสนใจเลย จะเลิกโทรแล้วละ” หยุด!!!!….คุณต้องดูเงื่อนไขนี้
-คุณกำลังจะสแปร์มเมล์หรือเปล่า ระบบที่ดิฉันบอกต้องเป็นระบบถูกกฎหมาย คนที่รับเมล์ยืนยันที่จะรับข้อมูลข่าวสารจากท่านถึงจะส่งให้เขาได้ และเขาสามารถยกเลิกการรับได้ถ้าไม่พอใจที่จะรับเมล์ต่อ ถ้าท่านจะหารายชื่อเมล์แล้วมาส่งโดยใช้เมล์ท่าน หรือโปรแกรมส่งเมล์ ท่านกำลังเดินหาตาราง
-ความเป็นมืออาชีพของเนื้อหาเป็นสิ่งสำคัญ ข้อความท่านกำลังดึงดูดคนหรือ กำลังไล่คนหนี…พิจารณาหรือยัง มั่นใจอย่างไรสิ่งที่ท่านกำลังเขียนมันเวิร์ค
-จงเชื่อ ไม่มีใครอยากเป็นคนถูกขาย ท่านกำลังส่งสารไปขายของหรือขายธุรกิจอย่างเดียวหรือเปล่า ถ้าท่านไม่ให้คุณค่าอะไรกับเขา แน่ใจว่าเขาจะกลับมาสนใจสิ่งที่ท่านทำ
-ท่านส่งเมล์คุยกับเขาหรือเปล่า เช่นจะส่งเมล์หาคุณสายธาร เมล์ท่านจะส่งหาว่า “สวัสดีค่ะคุณสายธาร ” หรือ “สวัสดีค่ะท่านผู้สนใจ" เพราะคุณกำลังหว่านแหอยู่ใช่ไหม คำพูดที่หวานหูคนที่สุดคือ ชื่อของเขาเอง เมล์ท่านต้องโฟกัสกับเขาเท่านั้น
-คุณกำลังส่งเมล์เป็นกลุ่มใหญ่ จะไหวเหรอถ้าไม่มีระบบออโต วันนี้ขี้เกียจไม่ส่งละ คอมเสีย ไฟดับ ทะเลาะกับแฟน หรืออื่นๆ

คราวหน้าดิฉันยังไม่บอกหัวข้อนะคะ อยากให้ท่านสนใจเข้ามาดูเอง แล้วเจอกันนะคะ


พัชรี บุษทิพย์
ผู้นำธุรกิจเครือข่าย

.........................................................................................................................................................................


Secret 7 การตลาดแบบไม่ฝืนธรรมชาติของมนุษย์

เมื่อได้ยินคำว่า ธรรมชาติของมนุษย์ คุณต้องนึกถึงการที่มนุษย์กระทำหรือตัดสินใจกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือสภาวะใดสภาวะหนึ่งโดยอัตโนมัติ ที่มาจาก 2 ภาวะอารมณ์ ก็คือ รัก กับ กลัว
-ถ้าความรักคือ ความยินดี ปรารถนาดี ความสำเร็จ การได้มาซึ่งสิ่งปรารถนา ความปิติ ความสุข การช่วยเหลือแบ่งปัน การดึงดูด
-ถ้าความกลัวคือ การป้องกันตัวเอง การผลักไส ความตรึงเครียด ความเศร้าโศก อิจฉาริษยา เห็นแก่ตัว ความเจ็บปวด ธรรมชาติของมนุษย์จะพยายามหลีกเลี่ยงภาวะจากความกลัว ก่อนที่จะเลือกภาวะแห่งความรักเสมอ เช่น มนุษย์เลือกที่จะเลี่ยงความรู้สึกเจ็บปวดก่อน แม้จะมองเห็นว่าถ้าเราทำอย่างนั้นเราจะได้รับความสำเร็จ และความสุข ยกตัวอย่างเช่น คนที่ทำเครือข่ายเลือกที่จะอยู่เฉยๆ แทนที่จะทำงานเพราะไม่อยากโดนปฎิเสธ

แล้วการตลาดแบบเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์เป็นอย่างไร?
ธรรมชาติของคน ข้อแรก คนไม่ชอบถูกขาย นี่ไงคะทำไมท่านเสียเพื่อน คนรู้จัก เพราะท่านพยายามที่จะขายอะไรเขาอยู่ไงคะ คนเราจะมีระบบป้องกันตัวเองทันที
ธรรมชาติของคน ข้อที่สอง คนชอบซื้อ ถ้าท่านมีเงินสัก 100 ล้าน ดิฉันว่าเมนูที่ท่านจะใช้เงิน 99เปอร์เซ็นต์เป็นการซื้อเช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อทื่ดิน ซื้ออื่นๆอีกมากมาย
ธรรมชาติของคน ข้อที่สาม คนไม่ชอบง้อคน ถามหน่อยค่ะ ท่านที่ทำเครือข่าย ท่านชอบง้อคนไหม แล้วย้อนมองการตลาดที่ท่านพยายามโน้มน้าวคนมาสนใจกับท่าน พยายามสาธิตสินค้า พยายามปิดการขาย รู้ไหมท่านกำลังง้อคน เห็นภาพไหมคะว่า ท่านกำลังทำการตลาดที่ฝืนธรรมชาติ ทั้งกับคนที่ท่านแนะนำ และตัวของท่านเอง เพราะท่านพยายามขาย โน้วน้าวเต็มที่ แต่คนที่ท่านแนะนำพยายามที่จะออกไปจากบริบทนั้นเพราะไม่อยากถูกขาย

การตลาดที่ไม่ฝืนธรรมชาติ ก็คือการที่ท่านทำการตลาดแบบไม่ง้อใคร และท่านต้องนำเสนอในสิ่งที่เขาต้องการมันอยู่แล้วหรือแก้ปัญหาให้เขาได้ ไม่ใช่มาโน้มน้าวให้เขาเริ่มสนใจ ตัวอย่างหนึ่ง ที่เห็นชัดเจนคือ ถ้าคุณพยายามขายเนื้อสันอย่างดีให้กับคนที่กินเจ แม้เนื้อท่านจะมีคุณภาพเท่าใดก็ไม่มีคนซื้อ คุณต้องมีระบบกรองว่าเขากินเนื้อ ถ้าจะให้ดีต้องมีระบบกรองไปอีกว่าเขาชอบทานเนื้อสันคุณภาพดี แล้วคุณก็แค่ทำการตลาดกับคนแบบนี้ไงคะ

การทำการตลาดแบบไม่ฝืนธรรมชาติ
สิ่งแรกทีท่านต้องรู้คือกลุ่มเป้าหมายของท่านคือใคร
อย่างที่สอง ท่านมีวิธีการหรือสินค้าที่เป็นที่ต้องการของเขาหรือไม่
อย่างที่สาม จะทำอย่างไรในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
เมื่อท่านเข้าใจทั้งสามข้อแล้วก็สามารถวางกลยุทธ์ ในการทำเครือข่ายของท่านได้

ทีนี้มองออกแล้วใช่ไหมคะว่าท่านจะทำการตลาดแบบไม่ฝืนธรรมชาติของคนอย่างไร บนพื้นฐานไม่ง้อใคร และไม่มีใครรู้สึกว่าถูกขาย


พัชรี บุษทิพย์
ผู้นำธุรกิจเครือข่าย


.........................................................................................................................................................................


Secret 8 การคัดเลือกคนที่จะเข้าร่วมเครือข่ายในระบบการตลาดแบบดึงดูด Attraction Marketing
ท่านทราบแล้วว่าหัวใจของการตลาดเครือข่ายแบบดึงดูด Attraction Marketing คือ การสร้างความเชื่อมั่นในตัวเรากับคนที่สนใจ เมื่อคนเห็นความเป็นมืออาชีพของเรา และเขาเห็นว่าเราสามารถพาเขาสำเร็จได้ เขาก็อยากจะร่วมกับเรา หน้าที่ของเราคือ การคัดเลือกว่าใครบ้างที่เราต้องการให้ร่วม!!!

เราสามารถทำอะไรบางอย่างก่อนคัดเลือกได้ก็คือ เราสามารถให้ข้อมูลการทำธุรกิจเครือข่ายอย่างไรให้สำเร็จ เขาควรทำงานอย่างไร ระบบเป็นแบบไหนบ้างที่จะเอื้อให้สำเร็จจริงๆ แบบเข้มข้น และเปิดโอกาสให้คนที่เขาต้องการร่วมกับเรา ได้แสดงว่าเขาต้องการเข้าร่วมกับเรา หน้าที่ของเราคือ การเลือกคนที่เราต้องการให้ร่วม การคัดเลือกคนเข้าร่วมเครือข่ายกับเรานั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการเลือกแฟน นั่นคือเราอาจจะต้องดูหลายๆคุณสมบัติเช่น เขาตั้งใจแค่ไหนที่จะเข้าร่วม เพราะบางคนแค่แวะเข้ามาดูเพื่อจะได้รู้อะไรบางอย่างที่เราทำอยู่ หรือ บางคนอาจจะแค่อยากจะรู้แต่ไม่ต้องการร่วมกับเราจริงๆ เขาเข้าใจการตลาดแบบที่เราทำแค่ไหน เขามั่นใจได้อย่างไรว่าระบบทำงานแบบนี้มันจะเอื้อให้สำเร็จ ทัศนคติเขาเป็นอย่างไรบ้าง มีทักษะตรงตามที่เราต้องการไหม และเรื่องความพร้อมด้านการลงทุน

บริบทของเราในการคัดคน ไม่ต่างอะไรจากการคัดเลือกคนเข้ามาทำงานในบริษัท นั่นคือเราต้องชัดเจนกับตัวเองก่อนว่าเราเป็นคนเลือกเขา ไม่ใช่ให้เขามาเลือกเรา ถ้าคิดว่าสิ่งที่คุยกำลังเป็นลักษณะการโน้มน้าวหยุดคิดสักนิดเพราะท่านกำลังพยายามง้อคนที่ท่านสัมภาษณ์อยู่ พยายามชักจูงอยู่ เมื่อคนเขามองว่าตัวเขาเองสามารถเลือกหรือไม่เลือกเราก็ได้ เขาจะเป็นคนถือไพ่ที่เหนือกว่าทันที นั่นหมายถึงการล้มเหลวในการสัมภาษณ์อย่างสิ้นเชิง อย่าลืมนะคะว่าการสัมภาษณ์คือการคัดคนที่ใช่ เพื่ออนุญาตให้เข้าร่วมกับเราหรือไม่ ถ้าเขาถือไพ่เหนือกว่านั่นคือท่านไม่มีสิทธิ์คัดคนได้เลย สิ่งที่อยากแนะนำสำหรับท่านที่ทำการตลาดแบบดึงดูด ท่านต้องแฝงการตลาดแบบปฎิเสธคนในนั้นด้วย หมายถึงคนที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะรับเข้าร่วม ท่านต้องปฎิเสธทันทีอย่าเสียดาย เพราะการรับคนเหล่านี้เข้ามานั่นคือ การได้คนที่ไม่ใช่มาร่วมธุรกิจและโอกาสที่จะล้มเหลวสูง แม้ว่าการทำงานจะง่ายเท่าใดก็ตาม และตัวท่านจะเสียเวลาในการดูแลคนเหล่านี้มากผิดปกติ
เมื่อเข้าสู่สถานการณ์การทำงานแบบนี้ มีคนมาขอสัมภาษณ์เพื่อจะเข้าร่วมธุรกิจกับท่านสม่ำเสมอ ตัวท่ายเองเพียงแค่คัดเอาคนที่ใช่ ตัวท่านเองจะเข้าสู่การตลาดดึงดูดแบบเต็มตัวแล้ว แต่การที่ท่านเองจะทำการตลาดแบบนี้ให้สมบูรณ์แบบ ท่านต้องมีระบบการทำการตลาดที่เอื้อจริงๆ และคนเขารู้จักท่านเท่านั้นในฐานะคนที่จะพาเขาสำเร็จ และท่านต้องเป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้าเทียบการตลาดดึงดูดว่าเหมือนคนที่หน้าตาดี อาจจะมีคนมาให้คัดเลือกเป็นแฟนเยอะ แต่ถ้าเขารู้ว่าท่านดีแค่หน้าตาแต่นิสัยแย่ คงจะคบกันได้ไม่นาน เหมือนในการทำธุรกิจที่ท่านต้องเป็นอย่างที่คุยจริงๆ ท่านต้องทำอย่างที่พูด และต้องมีระบบสนับสนุนการทำงานเหมือนที่ท่านบอกเขาจริงๆ

เมื่อท่านตัดสินใจที่จะรับเขาเข้าร่วม ท่านต้องเข้าใจธรรมชาติของคนคือ สิ่งที่คนมองหาอย่างหนึ่งในการพูดคุยคือ เขาจะได้อะไรบ้างเมื่อร่วมกับเรา และเขาจะสูญเสียอะไรถ้าเขาไม่ได้ร่วม ในลักษณะที่ไม่ใช่การชักจูง เป็นรายละเอียดสำคัญที่ต้องเพิ่มเติม ให้กับเขาทราบ

มองเห็นแล้วใช่ไหมคะว่าการตลาดแบบดึงดูดมีข้อแตกต่างในการที่จะได้คนเข้ามาร่วมแบบสิ้นเชิง ทำให้ท่านได้คนที่มีคุณภาพเข้ามาร่วม นั่นหมายถึงโอกาสของคนที่เข้าร่วมสำเร็จสูงมากอาจจะถึง 90% ซึ่งปกติคนทำเครือข่ายทั่วไปสำเร็จแค่ 0.01% การทำการตลาดแบบดึงดูด Attraction Marketing จะเป็นมุมมองใหม่ในการทำเครือข่ายในอนาคต เพราะทุกวันนี้คนทำเครือข่ายถูกมองในแง่ลบตลอดเพราะรูปแบบการตลาดแบบเดิมๆ บางคนเสียเพื่อน เสียแฟน เสียญาติ เสียคนรู้จัก เขากำลังมองหาการตลาดรูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องรบกวนใคร และง่ายกว่า นั่นคือโอกาสของคนที่เริ่มการตลาดแบบดึงดูด Attraction Marketing ที่จะสำเร็จในอนาคตที่มากกว่า…


พัชรี บุษทิพย์
ผู้นำธุรกิจเครือข่าย

.........................................................................................................................................................................


Secret 9 การตลาดแบบดึงดูด Attraction Marketing สิ่งที่ copy ยากมากในการตลาดรูปแบบเดิมๆ
เราเคยสังเกตไหมคะว่า คนที่เขามีรายได้มหาศาลกับเครือข่ายทำไมเวลาเขาจะรับสมัครใครเข้ามาร่วมมัน ง่ายจัง ทั้งที่เราพยายามก็เหมือนเขา อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไป ก็ยังไม่ได้ผลลัพธ์เหมือนคนนั้น
มีนิทานคนทำเครือข่ายมาเล่าให้ฟังค่ะ
มีธุรกิจเครือข่ายตัวหนึ่ง นายA เป็นคนที่เริ่มทำธุรกิจนั้นตั้งแต่แรกในประเทศไทย และเมื่อเวลาผ่านไปหลายปีจากองค์กรธุรกิจเครือข่ายเล็กๆ กลายเป็นองค์กรใหญ่โต นายA กลายเป็นคนที่มีรายได้มหาศาล 7-8 หลักทุกเดือน เนื่องจากได้ผลลัพธ์กับองค์กรที่ใหญ่โตขึ้น นายA ได้รับเชิญเป็นวิทยากรพิเศษ ในงานประชุมของบริษัทที่จัดตามโรงแรมต่างๆบ่อยๆ ในฐานะผู้ที่สำเร็จกับเครือข่ายและมีรายได้มหาศาล ทุกคนต่างก็ชื่นชมในความสามารถ ชื่อของนายA เป็นที่กล่าวขาน ทั้งในห้องประชุมและทางเน็ต เป็นคนที่หลายๆคนอยากเอาอย่าง
วันนั้นให้ห้องประชุม นางสุขใจ ซึ่งเป็นผู้มุ่งหวังของผู้ทำธุรกิจท่านหนึ่งคือนายB ที่อยู่ลำดับลึกมาก ในองค์กรของนายA นางสุขใจได้ประทับใจในตัวของนายAอย่างมาก ด้วยการที่นางสุขใจเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง และมองเห็นว่าถ้าร่วมเครือข่ายกับนายB คงมีโอกาสสำเร็จน้อย และจะดีมากถ้าได้ร่วมกับนายA นางสุขใจเลยตัดสินใจที่จะไม่ร่วมกับนายBท่านนั้น แล้วเริ่มต้นหาข้อมูลชื่อ เบอร์โทรของนายAทันที ในอินเตอร์เน็ต และได้เบอร์โทรสมใจ ตัดสินใจโทรหาและบอกว่าอยากเข้าร่วมกับนายA เนื่องจากไม่รู้มาก่อนว่านางสุขใจ เคยเป็นผู้มุ่งหวังของทีมงานตัวเอง และเห็นว่านางสุขใจมีคุณสมบัติที่ดีหลายอย่าง นายA เลยตัดสินใจรับสมัครติดตัวเองทันที นางสุขใจดีใจมากที่ได้ร่วมกับคนที่มีรายได้มหาศาลอย่างนี้
เมื่อเริ่มเรียนรู้งานจากนายA นางสุขใจได้แปลกใจเล็กน้อยเมื่อพบว่านายA ก็ไม่ได้สอนอะไรพิเศษ มากไปกว่านายB สิ่งที่นางสุขใจได้เห็นมากขึ้นพบว่าบางทีเมื่อขอความช่วยเหลืออะไรก็ตาม นายA จะไม่ค่อยตอบสนองเท่าไหร่ “หรือเพราะเขามีตำแหน่งใหญ่โต เลยติดธุระค่อนข้างบ่อย” นางสุขใจพูดกับตัวเอง นางสุขใจตัดสินใจไปหาที่บ้านอันหรูหราของนายA ก็เลยแปลกใจไปใหญ่ “โอ้ว นายA กำลังตีกอล์ฟ สบายใจเฉิบ มีสาวสวยพริตตี้ประกบ 2 คน” นางสุขใจตัดสินใจเดินเข้าไปทัก และพยายามคุยปัญหาที่เธอเจออยู่ที่มีคนสนใจธุรกิจและต้องการให้นายA ช่วยเหลือเธอด่วน ไม่งั้นเดือนนี้เธอจะไม่มีเงินรักษายอดและรายได้ไม่เกิดแน่ๆ นายAบอกว่า ให้เธอกลับไปก่อนเดี๋ยวจะติดต่อกลับไป เธอกลับออกมาจากบ้านนายA และรู้สึกเสียใจนิดๆ หลังจากนั้นนายAก็ไม่ติดต่อหาเธอตามที่บอก
เมื่อถึงช่วงงานเปิดโอกาสทางธุรกิจ นางสุขใจได้ชวนคนเข้าในงานประชุมได้ 3 ท่านที่แสนจะลำบากในการชวนเพราะชวนมาเป็น 20 กว่าคนแต่มาแค่ 3 คน แต่เธอก็ดีใจที่มีคนมาได้ ทั้ง 3 คน มี 2 คนเป็นนักศึกษาที่อยากหารายได้เพิ่ม และอีกคนเป็นพนักงานประจำที่อยากออกจากงานเพราะอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง หลังจากได้ฟังงานประชุมจนจบ ทุกคนก็ทะยอยกันกลับ 3 คนที่ร่วมประชุมไม่มีใครสมัครกับเธอเลย นักศึกษาทั้ง 2 คนบอกว่าไม่มีเงินค่าสมัคร ส่วนอีกคนบอกว่ายังไม่พร้อมตอนนี้
หลังจากนั้น 1 เดือนผ่านไป นายAได้จัดงานเลี้ยงยินดีให้กับสมาชิกในทีมที่ได้ขึ้นตำแหน่งใหม่ๆ ได้เชิญคนที่เป็นต้นๆสายของธุรกิจเข้ามาในงานเลี้ยง และทีมงานติดตัวเองเข้ามาในงานด้วย นางสุขใจก็ได้รับเชิญ และเธอแปลกใจมาก คนที่เธอเคยชวนเข้าอบรมที่โรงแรมก่อนหน้าก็มาด้วย และได้ถามคนที่เป็นไซด์ไลน์ที่มางานด้วยกัน เขาบอกว่า “อ้อเป็นทีมงานใหม่ของนายA ”….

**เป็นแค่เรื่องสมมติ ไม่เกี่ยวกับ บุคคล สถานที่หรือ อะไรก็ตามนะคะ
นิทานเรื่องนี้บอกอะไรกับเราบ้าง
-คนที่มีรายได้มหาศาลกับเครือข่าย เขาอยู่ในการตลาดดึงดูด(รายได้)ที่ใครๆ ก็อยากเข้าร่วมเพราะมั่นใจว่าเขาจะพาสำเร็จแน่ๆ
-ข่าวไม่สู้จะดีคือ คนที่เขามีรายได้มหาศาลเหล่านั้นแทบทุกคนไม่มีระบบที่เอื้อให้ทุกคนสำเร็จ
-ข่าวร้ายคือ คนเหล่านั้นเขาไม่เข้าใจด้วยซ้ำไปว่าเขาอยู่ในการตลาดดึงดูดที่ใครๆก็อยากเข้าร่วมกับเขา
-ข่าวร้ายกว่า คนเหล่านั้นไม่สามารถที่จะสอนทีมงานให้เข้าใจการตลาดดึงดูดและเป็นแบบเขาได้
-ข่าวร้ายยิ่งกว่า ธรรมชาติของคน ยิ่งร่ำรวยขึ้น คนจะยิ่งเหนื่อยง่ายขึ้น ทำงานหนักได้น้อยลง ความพยายามลดลง
-ข่าวร้ายที่สุด เขาจะสอนให้คุณทำสิ่งที่เขาอยากให้คุณทำและเขาไม่เคยทำ และผลักไสให้พยายามในสิ่งที่คุณไม่ชอบมากที่สุด
-จงอย่าแค่มองเครือข่าย แค่เพราะหลงในบางอย่างที่สวยงาม แผนง่ายที่สุดในโลก จ่ายมากที่สุดในจักรวาล บริษัทสุดยอดเบอร์หนึ่ง แจกโน่นแจกนี่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา มีคนมีรายได้มหาศาลมากที่สุดในโลก ถามตัวเองก่อน คนมาแนะนำเขาทำการตลาดอย่างไร เราอยากทำอย่างนั้นไหม ถ้าอยากทำงานแบบนั้นเยี่ยมเลยคุณกำลังพบทางสว่าง ถ้าไม่ ให้รีบถอยออกมา เพราะถ้าคุณเข้าไปคุณก็จะเจอการทำการตลาดที่ฝืนความรู้สึกตัวเองทันที สุดท้ายก็จะล้มเหลว การตลาดแบบดึงดูดคือการตลาดรูปแบบเดียวกับคนที่เขามีรายได้มหาศาลที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ แต่เขาไม่รู้ตัวเอง นั่นหมายถึงท่านกำลังได้รู้วิธีการดึงดูดคนให้เข้ามาร่วมกับท่านเหมือนกับคนที่เขามีรายได้มหาศาล เหตุผลเพราะคนอยากร่วมเครือข่ายกับคนที่มั่นใจว่าจะพาเขาสำเร็จแน่ๆ แล้วทำไมคนที่ทำการตลาดแบบนี้จะไม่สำเร็จล่ะ


พัชรี บุษทิพย์
ผู้นำธุรกิจเครือข่าย

........................................................................................................................................................................


Secret 10 Thai Attraction Marketing แนะนำวิธีการเลือกเครือข่ายอย่างไร ให้มั่นคง

หลายคนเริ่มเข้าใจการตลาดแบบดึงดูดพอสมควรแล้วนะคะ คราวนี้วิธีในการเลือกเครือข่ายอย่างไรให้ร่ำรวยกันบ้าง หรืออย่างแย่ที่สุด เลือกเครือข่ายยังไงให้สำเร็จได้บ้างไม่ใช่มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง เหมือนที่เคยเป็นกัน


ดิฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่เจ๊งกับเจ๊งมาแล้ว จนดิฉันมาหูตาสว่างอะไรบางอย่างเมื่อไม่นานนี่เองค่ะ (คนสำเร็จกับเครือข่ายหมายถึงคนที่มีรายได้อย่างน้อย 5 แสนบาทต่อเดือนขึ้นไปนะคะ)
ถ้าจะเลือกธุรกิจเครือข่ายเราต้องมองอะไรมาก่อนมาหลัง บางคนทำเครือข่ายมาเป็นสิบๆปียังเลือกเครือข่ายไม่เป็น ก็ยังล้มเหลวอยู่นั่นแหละไม่สำเร็จสักที หรือบางคนสำเร็จระดับสูงมาก สุดท้ายก็ต้องมานับศูนย์ใหม่ในไม่กี่ปีเพราะบริษัทและสายงานล้มไป ก็ยังไม่เข้าใจการเลือกเครือข่ายอยู่ดี ถ้าไม่เข้าใจท่านอาจจะหมุนวนมานับศูนย์เรื่อยๆ หรือท่านอาจจะล้มเหลวตลอดไป!!!
1. เลือกที่วิธีทำธุรกิจ วิธีทำการตลาดก่อนเลยค่ะ
2. -เมื่อเห็นวิธีทำธุรกิจแล้ว ถ้าอยากมั่งคั่งต้องมองโอกาสเติบโต
-แผนการตลาดเอื้อแค่ไหน
-มองที่ผลิตภัณฑ์
-มองที่ความมั่นคง
ข้อที่ 1 เลือกที่วิธีทำธุรกิจหรือวิธีทำการตลาด สำคัญมากที่สุด หลายคนที่ทำเครือข่ายติดหลุมพลางการล่อหลอกด้วยคนที่มีรายได้จำนวนมหาศาล มายืนเรียงกัน ใช้บรรยากาศของห้องกระตุ้นเร้า ใช้การชักแม่น้ำทั้ง5 ทำให้คล้อยตามและจิตนาการที่ฝันเฟื่องไปกันใหญ่ หลังจากนั้นไม่นานเมื่อออกจากห้องประชุมตัดสินใจสมัครและเริ่มสต๊อกสินค้า ก็ถูกลอยแพทันที ไม่มีคนสอนงาน ไม่มีคนพาทำงาน สินค้าก็ขายไม่ได้ แนะนำใครก็ไม่สนใจ บางทีพาทำงานบ้างแต่ก็เป็นไปในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ เช่น สิ่งที่เขาสอนลิสต์รายชื่อคนรู้จักเพื่อโทรไปแนะนำสินค้า หรือไปแนะนำธุรกิจ พร้อมกับคำขู่ว่า "ถ้าไม่รีบโทรหาคนรู้จัก อาจจะมีคนรู้จักไปทำกับคนอื่น หรือซึ้อสินค้ากับคนอื่นนะ”
ดังนั้นการเลือกวิธีทำการตลาดเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด ดูก่อนอย่างแรกคือ เครือข่ายที่ท่านจะทำเป็นเครือข่าย เซลล์แมนหรือเครือข่ายผู้บริโภค เครือข่ายเซลล์แมนคือ เครือข่ายที่ต้องมีการขายสินค้าเป็นหลักและใช้การขยายธุรกิจออกไป ข้อดีคืออาจจะมีรายได้จากการขายของ ข้อเสียคือ การจะได้รายได้ตามกฎเกณฑ์ของบริษัทต้องมีการรักษายอดสูงกว่า แต่สำหรับเครือข่ายผู้บริโภค เน้นการขยายเครือข่ายผู้ใช้สินค้าอย่างเดียวไม่จำเป็นต้องขายของ ข้อดีคืดถ้าต้องการรายได้ตามเกณฑ์ การรักษายอดไม่สูงมาก และถ้าสินค้าเป็นที่ต้องการก็อาจจะนำไปขายได้เหมือนกัน ถามตัวเองก่อนว่าท่านชอบเครือข่ายประเภทไหน
หลังจากนั้นเมื่อเข้าใจประเภทเครือข่ายแล้ว ดูต่อไปว่า คนที่มาแนะนำท่านเขาทำการตลาดอย่างไร ไม่ต้องสนใจสิ่งสวยหรูที่เขามาแนะนำ แม่น้ำทั้ง 5 สายที่ไหลมาบรรจบกันที่ปากเขาก็เหมือนกัน ท่านต้องการทำแบบเขาคนนั้นไหม เพราะถ้าท่านมัวแต่หลงกับแผนการจ่ายรายได้ จ่ายเงินเยอะที่สุดในจักรวาล แจกโน่นแจกนี่มากที่สุด มีคนหลักล้านมากที่สุด บริษัทยิ่งใหญ่ที่สุด ผลิตภัณฑ์ขายตัวเองได้ แต่ถ้าท่านสมัครใครร่วมเครือข่ายไม่ได้เลย มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยใช่ไหมคะ หรือท่านขายของไม่ออกสักชิ้น และกินเองจนหมด ท่านจะไม่เจ๊งหรือคะ เพราะถ้าท่านไม่ชอบวิธีทำการตลาดแบบนั้น สุดท้ายท่านก็จะแพ้ความอยากสบายของตัวเอง ไม่เอาแล้ววันนี้ขอนอนดีกว่า ดูทีวีดีกว่า เพราะท่านกำลังทำการตลาดแบบฝืนธรรมชาติของตัวเอง (ดิฉันอธิบายที่บทความที่ 7 แล้ว)

ข้อ 2 เมื่อเข้าใจวิธีทำการตลาดแล้วดิฉันย้ำนะคะ ต้องเข้าใจวิธีทำการตลาดก่อนว่าเราต้องการจริงๆเท่านั้นในส่วนของการทำการ ตลาดแบบนี้ หลังจากนั้นต้องเข้าใจ กราฟช่วงชีวิตของธุรกิจเครือข่าย ตามรูปที่เห็น ถ้าท่านไม่เข้าใจกราฟนี้อย่าคิดทำเครือข่ายเด็ดขาด ข่าวร้ายสำหรับบ้านเราคือ 99.99% ของนักธุรกิจเครือข่ายไม่เข้าใจกราฟนี้หรือเข้าใจก็เข้าใจไม่หมด ดิฉันจะอธิบายให้ฟัง ล้างความเข้าใจเก่าคุณทิ้งก่อนนะคะ



-กราฟ บอกอะไรเรา เมื่อเริ่มธุรกิจมีคนร่วมน้อยอยู่การเติบโตยังไม่ดีเท่าที่ควร ต้องใช้เวลาในการวอร์มตัวและสร้างผู้นำในธุรกิจเครือข่าย แต่เมื่อผ่านจุดที่ 1 ปรากฎว่ามีคนจำนวนมากเข้ามาร่วมและคนก็หลังไหลกันเข้ามาเรื่อยๆ 80% ของคนทำธุรกิจจะเข้าร่วมช่วงนี้ เมื่อผ่านจุดที่ 2 ธุรกิจเริ่มเป็นที่รู้จัก จะหันซ้ายหันขวา หน้าหลังก็เจอคนที่เขาทำหมดแล้วหรือว่ารู้จักหมดแล้ว ช่วงนี้จะเป็นการรักษา ระดับของธุรกิจ
-รู้ไหมว่าดิฉันกำลังจะสื่ออะไร
สังเกตไหมค่ะว่าคนที่มีรายได้ 7 หลักเขาเริ่มธุรกิจเครือข่ายกันตอนไหน แทบจะทั้งหมดก็ตอนบริษัทเปิดตัวนั่นละค่ะ หมายความว่า ถ้าคุณต้องการรายได้มหาศาลคุณต้องเริ่มก่อนที่ธุรกิจจะถึงจุดที่ 1 ในกราฟ แล้วถ้าคุณไปเริ่มช่วงที่คน 80 % คนเข้ามาล่ะคะ หมายถึงคุณอาจจะมีรายได้บ้างหรือเสียบ้างอยู่ที่ความสามารถและความขยัน รวมถึงเครื่องมือหรือระบบทำการตลาดที่มาช่วย ช่วงนี้มีการแข่งกันกันเองในเครือข่ายสูงมาก แต่การที่คนมั่งคั่งมีรายได้ 7 หลักยากมาก คุณต้องมีความสามารถพิเศษที่เหนือกว่าชาวบ้านมาก สำหรับคนที่เริ่มผ่านจุดที่ 2 ไปละ เมื่อผ่านจุดนี้ไปการทำธุรกิจสำหรับคนใหม่จะยากมากนะคะ ส่วนมากจะเข้ามาเป็นผู้บริโภค ไม่ค่อยมีรายได้กันเท่าไหร่ บางคนก็มีรายได้บ้างถ้ามีความพยายามมากกว่า แต่โอกาสที่จะร่ำรวยแทบจะไม่มีเลย คุณต้องเป็นยอดมนุษย์จริงๆ หรือคุณต้องสามารถสวนกระแสในความซบเซาได้
-สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจคือทุกบริษัทเครือข่าย ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว และไม่มีใครบอกว่าบริษัทตัวเองแย่หรอกค่ะ ถ้าจะชวนคนเข้าร่วม
-ไฮไลท์ตอนนี้ก็คือ คุณต้องรู้ให้ได้นะคะว่า ธุรกิจที่คุณจะเลือกกราฟธุรกิจอยู่ในช่วงไหน ถ้าคุณอยากมีรายได้มหาศาลแบบเร็วกว่า เพราะการเลือกผิดจุดนั่นคือโอกาสที่เหลือของคุณ บริษัทที่มีคนรายได้ 7 หลักจำนวนมากที่เขาพยายามนำเสนอ บริษัทที่เปิดมาตั้งนานในบ้านเรา มันกำลังบอกอะไรกับท่านเกียวกับโอกาสร่ำรวยที่น้อยลง โอกาสที่สำเร็จที่น้อยลง มันคงไม่ใช่เวลาของท่าน น่าจะพอเข้าใจนะคะ และที่สำคัญคุณต้องมองไปที่บริษัทด้วยนะคะ ว่ามั่นคงแค่ไหน แผนการจ่ายเงินเป็นยังไง และที่สำคัญผลิตภัณฑ์เป็นที่ต้องการของคนหรือไม่ ***ถามตัวเองก่อนนะคะว่า ผลิตภัณฑ์แบบนี้ ถ้าคุณไม่มีรายได้สักบาท คุณจะซื้อใช้ ซื้อกินไหมคะ ถ้าคำตอบคือไม่ คนอื่นเขาก็คงไม่ต่างจากคุณ นั่นหมายถึงธุรกิจเมื่อถึงจุดอิ่มตัว หันซ้ายขวา หน้าหลังก็มีคนทำแล้ว รับสมัครคนยากขึ้นหรือขายของยากขึ้น ถ้าคนไม่มีรายได้ เขาก็จะหยุดรักษายอด เมื่อเขาเห็นว่าผลิตภัณฑ์ไม่ได้จำเป็นกับชีวิต นั่นหมายถึงเครือข่ายที่จะล้มแบบโดมิโน่ มันก็จะล้มจนถึงโดมิโน่ตัวสุดท้ายละค่ะ และเริ่มไปนับศูนย์กันใหม่ หลายคนเข้าใจกราฟนี้แต่เข้าใจไม่หมด**ว่ากราฟนี้มันสื่อถึงผลิตภัณฑ์ด้วย ถ้าคุณต้องการธุรกิจสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน คุณต้องเข้าใจให้ชัดเจน ***ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของไม่จำเป็นในการดำเนินชีวิต เป็นผลิตภัณฑ์แฟชั่น สุดท้ายเครือข่ายก็จะจบลงเมื่อถึงจุดอิ่มตัว สิ่งที่ท่านทุ่มเทก็จะจบไป ทีนี้เข้าใจหรือยังคะว่า ทำไมบางเครือข่ายดังๆก็ยังล้มไป

แล้วข้อดีของการตลาดแบบดึงดูด Attraction Marketing จะมาช่วยอะไรได้ไหม เพราะท่านทำการตลาดด้วยการแบรนด์ตัวท่านเองไม่ได้มาแบรนด์บริษัทเหมือนคนอื่นๆ คนเขารู้จักท่านในฐานะมืออาชีพที่เขาอยากร่วม ท่านมีระบบฐานข้อมูลคนที่ต้องการสำเร็จที่ท่านจะให้ข้อมูลอะไรกับเขาก็ได้ ท่านมีความสัมพันธ์กับเขาเพราะเขารู้จักท่านในฐานะคนรู้จัก และมืออาชีพทางด้านเครือข่าย ถ้าธุรกิจมันแย่ที่สุดคือ เครือข่ายล้ม แต่การตลาดแบบดึงดูด เครือข่ายที่หายไปท่านสามารถเอาคืนในระยะเวลาอันรวดเร็วมากกับบริษัทใหม่ๆ เพราะคนจะติดสอยห้อยตามคนที่เขามั่นใจด้วยเสมอ
-แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดท่านมีระบบที่ยอดเยี่ยมแล้ว ท่านควรเลือกบริษัทที่ยอดเยี่ยมทั้งโอกาสมั่งคั่ง แผนรายได้ ผลิตภัณฑ์(ถามตัวเองว่า ถ้าท่านไม่มีรายได้สักบาทกับบริษัทนี้ ท่านจะยังซื้อกินซื้อใช้ไหม) และความมั่นคง


พัชรี บุษทิพย์
ผู้นำธุรกิจเครือข่าย


........................................................................................................................................................................


Secret 11 Attraction Marketing การตลาดในระบบเครือข่ายที่ไม่แคร์ชื่อบริษัท

บางคนเห็นหัวข้อนี้อาจจะแย้งว่า ไม่แคร์บริษัทแล้วจะทำการตลาดได้ยังไง ยังงี้มันจะสำเร็จไหม มาดูกันนะคะ

เอาง่ายๆเลยนะคะ ถ้าได้อ่านบทความมาตั้งแต่บทความที่ 1 ถึง 10 จะเห็นเลยว่า การตลาดแบบดึงดูด Attractin Marketing จะเป็นการโปรโมตความเป็นมืออาชีพของเราให้คนที่สนใจธุรกิจเห็น และเขาจะเข้าร่วมเมื่อเห็นว่าเราพาเขาสำเร็จแน่ๆ เห็นไหมคะว่าเขาไม่ได้เลือกที่บริษัทแล้วแต่เขาเลือกที่ตัวเรา

มองดูการทำเครือข่ายทุกวันนี้สิคะ พยายามโปรโมตบริษัทอย่างเดียว คนก็จะรู้จักแต่ชื่อบริษัท ใครได้ละคะ ก็บริษัทไงคะได้รับการกล่าวขาน ถามหน่อยมีกี่คนที่ยังไม่เคยทำบริษัทนั้นๆ รู้จักคนมีรายได้หลักล้านในบริษัทนั้นแล้ว หายากมาก บางคนทำเครือข่ายบริษัทที่มีคนรายได้ 7 หลักยังไม่รู้จักชื่อคนที่ร่ำรวยกับบริษัทนั้นเลย ยิ่งคนที่มีรายได้6หลักลงมาแทบบอกได้เลยว่า ไม่รู้จัก มันคือความล้มเหลวของการทำเครือข่ายโดยสิ้นเชิง เพราะอะไรค่อยมาดูกัน

ฟังนะคะ ถ้าคุณไม่เข้าใจ ดิฉันอยากให้ลองมองบริษัทเครือข่ายหรือบริษัทโดยทั่วไป ถ้าเขามีกำไรเขาก็ทำธุรกิจต่อไปได้ แต่ถ้าอยู่มาวันหนึ่งเกิดขาดทุน หรือเจอมรสุมทางธุรกิจอะไรก็ตาม และเจ้าของมองเห็นว่า การเดินต่อมีแต่เสียกับเสีย มันมีโอกาสที่จะปิดตัวไหมคะ ขนาดบริษัทรถยักษ์ใหญ่ในอเมริกายังเข้าสู่ขั้นตอนการล้มละลายมาแล้วนะคะ ประสาอะไรกับบริษัทเครือข่าย แล้วเกิดอะไรขึ้นกับบริษัทเครือข่ายที่กำลังจะล้ม อาจจะไม่ใช่เพราะผู้จำหน่าย แต่อาจจะมาจากหลายปัจจัย เช่นการฟ้องร้อง การดำเนินนโยบายผิดพลาดขาดทุนมหาศาล ภาวะการตลาดฝืดเคือง ภัยพิบัติที่เกิดกับบริษัท หมายความว่าอย่างไร ถ้าคุณไม่ได้แบรนด์ตัวเองเพียงพอ ไม่มีรายชื่อคนสนใจเพียงพอ คุณไม่ได้เป็นผู้นำเพียงพอ หมายถึงการต้องเริ่มต้นใหม่ สร้างรากฐานใหม่ที่อีกนานกว่าจะกลับมาเหมือนเดิม ดังนั้นคนทำเครือข่ายที่รายได้สูงๆ เขาจะไม่เป็นอันกินอันนอนกันทีเดียว ถ้าบริษัทร่อแร่ เพราะมันหมายถึงเขาต้องหมดความสะดวกสะบาย รายได้มหาศาลที่ลดลง และต้องไปเริ่มสร้างองค์กรใหม่ อาจจะมีคนติดตามบ้างแต่ก็ไม่ได้มากเฉพาะคนที่ คุณดึงดูดเขาได้เท่านั้น และทุกบริษัทมันก็มีโอกาส ไม่ว่าคุณจะบอกว่าบริษัทคุณมั่นคงแค่ไหนก็ตาม และผลกระทบมันก็จะรุนแรงกับคนที่มีความเป็นผู้นำน้อยกว่า หรือคนมั่นใจในตัวเขาที่น้อยกว่า

สำหรับการตลาดดึงดูด Attraction Marketing ทุกคนเข้าร่วมกับคุณเพราะความมั่นใจในตัวคุณ และมีระบบสนับสนุกการทำงานที่ง่าย อย่าลืมแม้บริษัทมันจะล้มไป แต่คนเขาเห็นคุณ เห็นระบบสนับสนุนของคุณ รู้ว่าคุณคือคนที่เขาต้องการ ทำไมเขาจะไม่ไปร่วมด้วย และคุณมีคนในระบบที่สนใจธุรกิจที่คุณจะโปรโมตอะไรไปก็ได้อีก นั่นหมายถึงคุณก็สามารถเอาคืนได้กับเครือข่ายที่ล้ม ในระยะเวลารวดเร็วกว่า แต่อย่างไรก็ตามการได้เลือกบริษัทที่ดี และมั่นคงกว่าก็น่าจะเป็นอะไรที่มั่นคงกว่า แต่อย่าลืม พิจารณาโอกาสสำเร็จด้วยนะคะ (กล่าวแล้วในบทความที่ 10)


พัชรี บุษทิพย์
ผู้นำธุรกิจเครือข่าย

........................................................................................................................................................................